โซลาริส( The Solaris Operating Environment)


  โซลาริส (อังกฤษ: Solaris) หรือในชื่อเต็ม The Solaris Operating Environment เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ แบบยูนิกซ์ ที่พัฒนาโดย ซัน ไมโครซิสเต็มส์
               ระบบปฏิบัติการโซลาริส ใช้ได้กับ
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์สองแบบ คือ แบบ สปาร์ค และแบบ x86 (แบบเดียวกับในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วไป)
               รุ่นแรก ๆ ของโซลาริสนั้น ใช้ชื่อว่า ซันโอเอส (
SunOS) โดยมีพื้นฐานมาจากยูนิกซ์ตระกูลบีเอสดี. แต่ต่อมาในรุ่นที่ 5 ได้เปลี่ยนมาใช้โค้ดของ ซิสเต็มส์ไฟว์ (System V) แทน และเปลี่ยนชื่อมาเป็น โซลาริส ดังเช่นในปัจจุบัน, โดยเรียกโซลาริสรุ่นแรกว่า โซลาริส 2 และเปลี่ยนชื่อเรียกของซันโอเอสรุ่นก่อน ๆ เป็น โซลาริส 1.x, และหลังจากโซลาริสรุ่น 2.6 ก็ได้ตัด "2." ข้างหน้าออกไป และเรียกเป็น โซลาริส 7 แทน
               รุ่นปัจจุบัน (ก.ค. 2548) ของโซลาริสคือ โซลาริส 10การพัฒนาบางส่วนของโซลาริสในอนาคต ขณะนี้ได้พัฒนาในโครงการ
โอเพนโซลาริส (OpenSolaris) ซึ่งเป็นโครงการระบบปฏิบัติการแบบโอเพนซอร์ส
สถาปัตยกรรมที่สนับสนุน
              Solaris ใช้ร่วมกับ code base เช่น SPARC และ i86pc (ซึ่งรวมถึง x86 and x64) , Solaris มีชื่อเสียงพอสมควรใน symmetric multiprocessing, และ รองรับ CPU ได้อย่างมากมาย และการกำหนดการใช้งานอย่างเข้มงวดจากฮาร์ดแวร์ Sun's SPARC (รวมถึงสนับสนุนจาก 64-bit SPARC ตั้งแต่ Solaris7 ) ซึ่งทำเป็นแพ็กเกจร่วมกันออกวางตลาด เป็นระบบที่มีความน่าเชื่อถือ, แต่ราคาธรรมเนียมจะมากกว่าราคาสินค้าของฮาร์ดแวร์ PC, อย่างไรก็ตามมันสนับสนุนระบบ x86 ตั้งแต่ Solaris 2.4 จนถึงเวอร์ชันล่าสุด Solaris10 รวมถึงสนับสนุนจาก 64-bit x86 แอฟฟิเคชั่น Solaris7 , SUN ยอมให้ CPU 64- bit เป็นสถาปัตยกรรมจาก x86 64, SUN ได้ประโยชน์จาก Solaris อย่างมากจากผู้ใช้ซึ่งเป็นเจ้าของ x64 ซึ่งเป็นพื้นฐานของ AMD Opteron and Intel Xeon รวมทั้งระบบ x86 ที่โรงงานผลิตของ Dell, Hewlett-Packard, and IBM. ในปี 2007 ผู้ขายทั้งหลายดังที่กล่าวมาได้สนับสนุน Solaris สำหรับระบบเครื่องแม่ข่าย x86
               -
Dell ได้ทดสอบและยอมรับว่าเหมาะสมและกลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ปรากฏบนเมนูของ Dell
-IBM ยังเลือก Solaris x86 เป็นระบบพื้นฐานของระบบเครื่องแม่ข่าย
-Intel
-Hewlett Packard

ไมโครซอฟต์ เปิดตัว IE9 กราฟิกเร็วกว่า Chrome5 ถึง 12 เท่า

บล็อก IE ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) อ้างว่า บราวเซอร์ Chrome, Firefox และ Safari ไม่เหมาะกับการจัดการคอนเท็นต์ HTML5 เนื่องจาก Internet Explorer 9 จะมาพร้อมกับคุณสมบัติเร่งการเรนเดอร์กราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์ หรือ D2D ซึ่งผลลัพธ์ทำให้ความเร็วในการเร็นเดอร์ภาพเคลื่อนไหว HTML ของ Internet Explorer 9 เร็วกว่า Chrome 5 ถึง 12 เท่า
เพื่อพิสูจน์คำอ้างดังกล่าว ไมโครซอฟท์ใช้ FlickrExplorer แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเร็นเดอร์กราฟิกของ Internet Explorer 9 แม้ว่าสมรรถนะในการรัน JavaScript ของ Internet Explorer 9 จะสู้ Chrome และ Safari ไม่ได้ แต่การเร็นเดอร์กราฟิกของบราวเซอรรุ่นใหม่ถือว่าเยี่ยมยอดที่สุด ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า Internet Explorer 9 เวอร์ขัน Platform Preview 2 สามารถรีเฟรชหน้าเว็บได้ภายในเวลา 0.019 วินาที Firefox 3.7a5 0.12 วินาที Chrome 5 ใช้เวลาถึง 0.22 วินาที ส่วน Internet Explorer 8 อยู่ที 0.25 วินาที
ประเด็นก็คือ Firefox 3.7a5 มีคุณสมบัติเร่งการเร็นเดอร์กราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์เช่นเดียวกัน แต่มันจะถูกปิด (disable) ไว้ทีดีฟอลต์ ซึ่งในบล็อกของไมโครซอฟท์ระบุว่า เมื่อใดก็ตามที่ Firefox เวอร์ชันทดสอบเปิดคุณสมบัติการเร่งกราฟิกที่ดีฟอลต์ เมื่อนั้นเราจะเผยแพร่ผลการทดสอบอีกครั้งทางบริษัทยังรายงานอีกด้วยว่า Internet Explorer 9 Platform Preview 2 ยังไม่ได้ใช้อินเตอร์เฟซอย่างเป็นทางการ ส่วน Firefox 3.6.4 จะยังไม่มีคุณสมบัติเร่งกราฟิกด้วยฮาร์ดแวร์ D2D hardware acceleration แต่อาจจะมีอยู่ใน Firefox 4.0 เวอร์ชันทดสอบที่มีกำหนดการเปิดตัวปลายเดือนมิถุนายนนี้

Netbook มาแรง Pixel Qi มาแล้วคับ


เพื่อนักดัดแปลงคอมพิวเตอร์ที่จะได้นำไปคิดค้นและประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ ออกมา ซึ่งได้มีการวางจำหน่ายชุดคิทแบบ 3Qi ในราคาเพียง $275 (ประมาณ 9,000 บาท)
โดยหลังจากวางจำหน่ายได้ไม่เกินอาทิตย์ก็ทำให้ชุดคิท 3Qi ขาดตลาดไปอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงได้ทำเว็บ Makershed ให้ บริการเพื่อให้มีการสั่งจองล่วงหน้าและรวมถึงส่งสินค้าให้ลูกค้าอีกด้วย
เพื่อนๆ หลายคนคงจะสงสัยแล้วชุดคิทหน้าจอแบบ 3Qi นี้มันเป็นอย่าง ไร จริงๆ แล้วเป็นหน้าจอแบบธรรมดาที่มีความสามารถในการใช้งานใน เน็ตบุ๊ครุ่น Samsung N130
โดยหน้าจอชุดคิทจะมีความสามารถพิเศษ คือมีปุ่มเปิด-ปิดแสง backlight ที่ช่วยให้การแสดงผลชัดเจนมากขึ้น และยังมีโหมดในการประหยัดพลังงานถึง 80% อีกด้วย

iOS 4 คืออะไร มีอะไรใหม่ในนั้น

หลังจากที่ Apple ออกมาเปิดตัว iPhone 4 นั้นก็ได้เปิดตัว iOS 4 ออกมาเช่นเดียวกัน โดย iOS 4 นั้นคือระบบปฏิบัติการณ์ตัวล่าสุดที่จะถูกนำมาใช้ใน iPhone 4 ที่จะเปิดขายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ครับ โดยเจ้า iOS 4 นั้นจะประกอบไปด้วย feature ใหม่ๆกว่า 100 เลยทีเดียว โดยสามารถอัพเกรดจาก OS เดิมได้จาก iPad, iPhone 3G, iPhone 3GS และ iPod Touch Gen 2  32GB กับ 64GB เท่านั้น
โดย Jobs นั้นจะบอกว่าจุดที่น่าสนใจของ iOS 4 นั้นก็คือ ระบบ multitasking, iBooks, ระบบจัดการไฟล์ และระบบโฆษณา และอีกจุดนึงที่น่าสนใจมากๆก็คือเรื่องของการปรับปรุง Mail App ครับเพราะตัวก่อนหน้านี้ใช้งานได้ไม่ค่อยดีมากนัก เพราะถ้าหากเรามี Account อยู่หลายๆ ตัวนั้น Mail App ใน iOS 4 นั้นจะรวมเมลล์ทุกๆ ฉบับไว้ให้ในหน้าจอเดียวครับ สะดวกมากขึ้น


ในขณะที่ในส่วนของ Application Management นั้นก็จะมีระบบ Folder เพิ่มเข้ามาครับ ทำให้เราสามารถจัดการโปรแกรมได้ถึง 2,160 โปรแกรมเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆก็เช่น tap-to-focus ในการใช้การวิดีโอ, กล้องซูม 5x, ระบบ Face and Places ที่จะคอยบอกว่าเราถ่ายรูปนี้ที่ไหนและใครอยู่ในรูปนั้นบ้าง, สามารถเปลี่ยน Wallpaper ในหน้า Home ได้, ระบบ Spell Checking ที่จะฝังเอาไว้ใน Mail App และ App อื่นๆบางตัว